ชี้เป้าเข้าใจประกันสุขภาพเด็กปลายปี 2020 รวมมิตร 1เดือน - 15ขวบ รวบยอดในบทเดียว
ประกันสุขภาพเด็ก
ชี้เป้า เข้าใจ ประกันสุขภาพเด็กปลายปี 2020
รวมมิตร 1 เดือน - 15 ขวบ รวบยอดในบทเดียว
ใช้เวลาอยู่นานในการศึกษาและหาข้อสรุป จนเกิด EP นี้ขึ้นเพื่อรวบรวมประกันสุขภาพเด็ก ที่เปิด ๆ ปิด ๆ กันอย่างเมามันส์ตลอดช่วงครึ่งปีหลังที่ผ่านมา เพิ่งจะเขียนเนื้อหาประกันเด็ก 4 EP เมื่อต้นปี มันก็พลิกฟ้าพลิกดิน ค่ายที่แม่มณีเคยเชียร์ไว้ล้วนเปลี่ยนกฎเกณฑ์ทั้งสิ้น แม่มณีจึงปลงใจว่าหากเขียนเต็มรูปแบบเหมือนเดิม กว่าจะเขียนกว่าจะอ่านกันเสร็จ 4 EP เปลี่ยนหนีเราไปอีกพอดี รอบนี้แม่มณีจึงกางตารางผลประโยชน์ กฎเกณฑ์ และเบี้ยประกันทั้ง 11 บริษัท และคัดเลือกเฉพาะแผนที่น่าสนใจมาให้เห็น แผนใดไม่มีจุดเด่นแม่มณีขอไม่เอ่ยถึง แบ่งเป็น 4 กลุ่มในบทเดียว
กลุ่มที่ 1 จตุรเทพค่าห้องแยกค่าใช้จ่าย
กลุ่มที่ 2 ค่าห้องไฮบริด สำหรับเด็ก 6 ขวบขึ้นไป
กลุ่มที่ 3 เบญจภาคีเหมาจ่ายเด็กเล็ก
กลุ่มที่ 4 เหมาจ่ายในเครือ BDMS อย่ารอช้า...ไปอ่านกันโลดเลยเจ้าค่ะ
กลุ่มแรก ที่พึ่งหลักของพ่อแม่ชนชั้นกลาง ไปถึงกลางค่อนบน ไม่จนรายได้ แต่รวยรายจ่ายมาก แม่มณีขอนำเสนอตระกูลค่าห้องแบบแยกค่าใช้จ่าย ซึ่งแต่ละค่ายก็ขายเด็กเล็กกันอย่างอัตคัด บ้างจำกัดไม่ให้ซื้อค่าห้องสูง บ้างบังคับพ่วงประกันสุขภาพพ่อแม่ ต้นปีแม่มณีเคยเชียร์กลุ่มค่าห้องไฮบริดของ R คะเน และฟิลหลอดไฟ ปลายปีปิดหนีเด็กไทยไปซะแล้ว ดังนั้นสำหรับประกันสุขภาพเด็กเล็กไม่ถึง 6 ขวบ เน้นประหยัดพอเพียง พึ่งพาได้ 4 ค่ายเจ้าค่ะ
2 ค่ายแรกที่ถือว่าเป็นความหวังของเด็กทั้งหมู่บ้าน คือโตเกียว มาลุย และฟิลหลอดไฟ จริง ๆ แล้วแผนประกันก็ไม่ได้มีอะไรหวือหวา ก็เป็นค่าห้องแยกค่าใช้จ่ายธรรมดาที่มีมาช้านาน แต่ชนะที่ความกล้าหาญที่ยอมขายค่าห้องสูง ๆ ให้เด็กเล็ก สำหรับ 2 ค่ายนี้มีข้อสังเกตดังต่อไปนี้
ประการที่หนึ่ง ถ้ามองค่าห้องน้อย ๆ ระหว่างสองพันถึงห้าพัน เบี้ยประกันจะราคาต่างกันไม่มากนักระหว่างสองค่ายนี้ แม่มณีเชียร์ว่าโตเกียว มาลุย จะมีภาษีกว่า เพราะฟิลหลอดไฟนั้นบังคับซื้อทุนประกันชีวิต 1 ล้าน แม้ว่าจะเป็นแบบ Terms 10 ปี ทำให้เบี้ยประกันรวมไม่สูง แต่พอพ้น 10 ปีไปแล้ว เราจะเปลี่ยนเป็นสัญญาหลักแบบตลอดชีพได้ ก็ยังคงต้องเป็นทุนประกัน 1 ล้านเท่าเดิม ซึ่งสำหรับเด็กแล้วการจะซื้อทุนประกันชีวิตสูง ๆ ไม่ค่อยมีความจำเป็นนัก ในขณะที่ของโตเกียวมาลุยนั้นเป็นทุนประกันขั้นต่ำแค่ 150,000 แบบตลอดชีพเท่านั้น
ประการที่สอง กรณีมองค่าห้องสูง ๆ เกินห้าพัน อันนี้มีนัยในด้านความต่างราคา ฟิลหลอดไฟถูกกว่าหลายพัน ยันหลักหมื่น แม้จะต้องมีภาระในด้านทุนประกันชีวิต 1 ล้านก็ตาม ว่ากันตามจริงแล้ว ถ้าลูกเราไม่ได้เป็นโรคเรื้อรังอะไร มีความเป็นไปได้ที่เราจะทำประกันสุขภาพเล่มใหม่ให้ลูก เมื่อเค้าโตขึ้นและมีทางเลือกมากกว่านี้ ไม่จำเป็นที่จะต้องถือเล่มนี้ที่มีทุนประกันชีวิต 1 ล้านต่อไปเรื่อยๆ อันนี้ก็ต้องตัดสินใจกันเอง
ประการสุดท้าย จุดเด่นของโตเกียวมาลุยคือ มีวงเงินเพิ่มค่าแพทย์เฉพาะทางให้ (ข้อ 6) เพิ่มเติมจากค่าแพทย์เยี่ยมไข้ปกติ (ข้อ 5) ส่วนจุดเด่นของฟิลหลอดไฟคือให้เบิกค่ารักษาอุบัติเหตุฉุกเฉินผู้ป่วยนอก (ข้อ 12) ได้ถึง 7 วัน นั่นคือค่าล้างแผล ค่า Follow up อะไรต่าง ๆ เบิกได้ ในขณะที่ค่ายอื่นเบิกได้แค่วันแรกเท่านั้น โดนใจจุดเด่นไหนก็ว่ากันไปนะเจ้าคะ แต่สุดท้ายแม่ ๆ อย่างเราก็เพ่งที่ตารางเบี้ยกันแหล่ะ?
ส่วนสองค่ายใหญ่คือ เอจามเอ และ เทยประกัน จะขายค่าห้องเด็กในลักษณะของเอกตร้า คือค่าห้องธรรมดาบวกรายการบังคับแถมอีกนิดหน่อย แต่เบี้ยกระฉูดขึ้นพอควรสำหรับค่าห้องน้อย ๆ และกระฉูดมากหน่อยในค่าห้องสูง สิ่งที่แถมติดปลายนวมมานั้นให้ดูในตารางตั้งแต่ข้อ 13-16 ซึ่งที่จะได้ใช้จริงจังสำหรับเด็กน่าจะเป็นเรื่องค่ารักษาผู้ป่วยนอก (ข้อ 14) ในกรณีต้องไปเทียบกันเองว่าสิ่งที่ได้มา เทียบกับราคาที่เพิ่มขึ้นนั้น มันคุ้มกันมั้ยในทรรศนะของพ่อแม่แต่ละท่าน แม่มณีนั้นนำเหนอข้อมูลแต่มิอาจตัดสินได้ สุดแต่ใจเจ้าของสตางค์
กลุ่มที่สอง คือค่าห้องไฮบริดเดิมที่แม่มณีเคยเชียร์สุดหล้าในช่วงต้นปี แต่พอปลายปีค่ายที่มี product นี้ทยอยปิดการขายกันจนหมด เหลือ R คะเนที่ยังขายให้เด็กอยู่ในเงื่อนไขที่รับได้ แต่ก็เริ่มที่อายุ 6 ขวบขึ้นไป ดังนั้น สำหรับเด็กโตหน่อย แม่มณีเชียร์พี่ R คะเน ค่าห้องไฮบริดสุดใจขาดดิ้นเช่นเดิม เพราะมันคุ้มราคา มีการจ่ายส่วนเกินแต่ละรายการให้อีก 90% ใครจำไม่ได้ หรือไม่รู้จักค่าห้องไฮบริดตระกูลนี้ แม่มณีขอให้กลับไปอ่านที่เขียนไว้ต้นปีได้เลยเจ้าค่ะ กดอ่านตรงนี้ได้เลยเจ้าค่ะ
มาต่อกันที่กลุ่มที่สาม ประกันเหมาจ่ายที่ยอมขายเด็กเล็ก เพื่อนแท้พ่อแม่ชนชั้นเจ้าพระยา พร้อมเปย์หนัก รักโรงพยาบาลหรูหรา แลตารางนี้เลยเจ้าค่ะ 5 ค่ายที่แม่มณีเลือกมาถือเป็นเบญจภาคี มีดีไปคนละด้าน เริ่มต้นจากน้องเปรี้ยว F อะไรดี หลังจากปิดแผนเล็กสุด 550,000 ไป เปิดขาย 2 แผน คือแผนใหญ่ กับ แผนอุลตร้า ผลักให้ราคาเริ่มต้นเปิดที่หกหมื่นสอง คุณพระ! เก็บความตระหนกไว้และพิจารณาอย่างมีสติจะพบว่า แม้ราคาสูง แต่ไม่แพงเลยโดยเปรียบเทียบ หากเราเอาเบี้ยหกหมื่นกว่าไปซื้อเหมาจ่ายค่ายอื่น ลองตรองดูว่าเราจะได้อะไรบ้าง?
เราจะได้เหมาจ่ายค่าห้อง 6,000 ของกรุงเมพ ส่วนของโตเกียวกับเอจามเอ ซัดไปเจ็ดหมื่นกว่า อลั้นลาไม่ต้องพูดถึงค่าห้อง 6,000 คือแผนอุลตร้า 2 เบี้ยเก้าหมื่นกว่า หรือจะเลยเถิดไปซื้อแผนชั้นหนึ่งเบี้ยแปดหมื่นกว่า ก็ต้องซื้อพ่วงพ่อ หรือ แม่ และใช้ได้เฉพาะ รพ. เครือ BDMS เท่านั้นนะเจ้าคะ ในขณะที่น้องเปรี้ยว F อะไรดี ไม่จำกัดค่าห้อง ไม่จำกัดโรงพยาบาล ไม่จำกัดอะไรเลย ขอแค่เคลมปีละไม่เกินล้านหนึ่งแสน หากแม้นแม่มณีมีอัฐระดับเจ้าพระยา ก็จะคบหาแผนนี้เจ้าค่ะ แม่จึงทุ่มเททั้งดาว และ หัวใจให้ไปเลยเต็มตารางสำหรับเหมาจ่ายเด็กเล็กหนึ่งในดวงใจ ยังไงก็ให้น้องเปรี้ยว
ส่วนค่ายอื่น ๆ อาจเหมาะในกรณีจำเพาะเจาะจง เช่น ต้องการประกันแบบเหมาจ่ายราคาไม่แพง เข้า รพ. ที่ค่าห้องไม่สูง อะไรเทือกนี้ก็พอจะเลือกหา 3 ค่ายกรุงเมพ โตเกียว มาลุย และเอจามเอกันได้ โดยเฉพาะกรุงเมพ นั้นมีผลประโยชน์พิเศษกลายร่างเป็นค่าชดเชยต่อวันกรณีที่เรามีสวัสดิการอื่นแล้วไม่เบิกจากเล่มนี้ อันนี้แม่มณีก็มองว่าเป็นฟังก์ชั่นที่มีค่าสำหรับคนที่มีสวัสดิการหรือประกันเล่มอื่นอยู่ด้วย แล้วจะทำอันนี้ไปเพิ่มเติม ถ้าไม่ได้เบิกกรุงเมพ เราก็ยังได้เงินค่าชดเชยมาเยียวยาจิตใจ แต่สำหรับคนไม่มีสวัสดิการอื่นใดอันนี้ไม่ได้ค่าชดเชยนะเจ้าคะ
ส่วนอลั้นลานั้น มีแผนเด็ดชูธงคือ ชั้นหนึ่ง ที่ทำตลาดกับเครือ รพ. BDMS ซึ่งก็จะได้ผลประโยชน์อลังการ ค่าห้องหมื่นสอง เหมาจ่าย 80 ล้าน บานตะเกียง แต่ว่ามีเงื่อนไขว่าต้องซื้อพ่วงพ่อหรือแม่อีก 1 คนในแผนเดียวกันกับลูกด้วย และต้องอย่าลืมว่าใช้ได้เฉพาะเครือ BDMS เท่านั้น
ว่าไปถึงประกันแบบที่ทำการตลาดร่วมกับ BDMS ก็มาถึงกลุ่มสุดท้าย มีอีก 2 ตัวที่น่าสนใจ แต่ว่าขายสำหรับเด็ก 6 ขวบขึ้นไปเท่านั้น ตัวแรกคืออลั้นลา เจ้าเก่าที่สนิทสนมกับ BDMS มีแผนเหนือกว่าชั้นหนึ่ง ชื่อว่า บียอนเซ่ ความคุ้มครองอลังการ บรรลือโลก ค่าห้อง 18,000 เหมาจ่าย 100 ล้าน ผู้ป่วยใน นอก ทำฟัน ตรวจสุขภาพ วัคซีน ตัดแว่น เบี้ยแสนกว่าจะทำอะไรก็ด้ายยยย อย่าลืมว่าพ่วงพ่อหรือแม่ในแผนเดียวกันด้วยเหมือนเดิม
แต่แม่มณีมีอีกหนึ่งแผนลับสำหรับแฟนคลับ BDMS ไม่ค่อยมีใครรู้จักกันเท่าไหร่ คือ แผนเพชรห่วงใย มีเงื่อนไขคือต้องซื้อทุนประกันชีวิตสี่แสน แผนเพชรห่วงใยให้ค่าห้อง 8,000 เหมาจ่ายปีละ 1-3 ล้านแล้วแต่เลือก ใช้ได้ในโรงพยาบาลเครือ BDMS ในสนนราคาสองหมื่นเกือบจะถ้วน ขอย้ำ เหมาจ่ายค่าห้องแปดพัน ใช้ได้ใน รพ. เครือ BDMS เบี้ยเกินสองหมื่นมาแค่หลักร้อย ถ้าอ่านตรงนี้ยังไม่รู้ว่าถูกหรือแพง ย้อนกลับไปดูเบี้ยเหมาจ่าย 6 ขวบของกลุ่มเบญจภาคีตารางเมื่อกี๊ สำหรับใครที่เป็นแฟนคลับ BDMS และลูกอายุ 6 ขวบขึ้นไป แผนเพชรห่วงใยคุ้มจริงเจ้าค่ะ ลองเปรียบเทียบดู
สำหรับความคุ้มครองผู้ป่วยนอก หลายค่ายให้ซื้อเพิ่มเติมได้ในเงื่อนไขที่แตกต่างกัน แม่มณีนั้นไม่ได้ลงรายละเอียด เพราะผู้ป่วยนอกเป็นเพียงส่วนเสริมไม่ใช่ความจำเป็นหลักยิ่งสำหรับเด็กนั้น เบี้ยประกันสัญญาผู้ป่วยนอก ราคาค่อนข้างสูง ถ้าเด็กไม่ได้ป่วยบ่อยจริงๆยอมจ่ายตังค์ค่ารักษา เองเป็นครั้งๆไปอาจคุ้มกว่า ไม่เหมือนค่ารักษากรณีต้องนอนโรงพยาบาล ร้าวรานใจกว่ากันมาก นอนครั้งเดียวอาจจะลมจับได้ถ้าไม่มีประกัน แต่ใครอยากให้มันครบเบิกได้ทั้งนอน / ไม่นอนโรงพยาบาล ถามข้อมูลเพิ่มเติมกันที่ line@ : @msmanyteam เจ้าค่ะ
อ่านมาถึงตรงนี้ แม่มณีสันนิษฐานได้เลยว่าคุณก็ต้องเป็นคนหนึ่งที่พึงสนใจจะซื้อประกันสุขภาพให้ลูก เชื่อแม่มณีเถอะเจ้าค่ะ อย่าคิดเยอะ! เลือกนานพาลจะซื้อไม่ทันนะเจ้าคะ ดูซิแค่ครึ่งปี มันเปลี่ยน มันปิดกันไปกี่แบบ อ่านจบบทนี้เชื่อเถอะว่าคุณมีข้อมูลมากเพียงพอจะเลือกได้แล้วเจ้าค่ะ ตัดสินใจจิ้มไปซักอัน ทำให้ทันก่อนที่ลูกจะป่วย ก่อนที่แผนดี ๆ จะปิด ด้วยความหวังดีที่แท้ทรูจากแม่มณีเจ้าค่ะ