ลูกครึ่งประกันสุขภาพ กับ ประกันโรคร้ายแรง เจอโรคร้าย จ่ายค่ารักษาเหมาจ่ายต่อปี
ประกันโรคร้ายแรง
ลูกครึ่งประกันสุขภาพ กับ ประกันโรคร้ายแรง
เจอโรคร้าย จ่ายค่ารักษาเหมาจ่ายต่อปี
อยากได้ประกันโรคร้ายแรงแบบที่จ่ายค่ารักษาเหมาจ่ายไปตลอด ไม่ใช่แค่จ่ายเงินก้อนแล้วจบ
พบกับแบบประกันเช่นนั้นได้แล้ววันนี้ที่ค่ายเมืองเทย และ น้องส้มเปรี้ยวเจ้าค่ะ
แม่มณีเจอเนือง ๆ เด็กวัยรุ่นจบใหม่ ใฝ่ดี เพิ่งมีรายได้ อยากได้ประกันเล่มที่หนึ่ง ส่วนใหญ่มักพึงใจเป็นประกันออมทรัพย์ระยะกลาง - สั้น - หรือสั้นกุด แต่ ณ จุดนี้ PM 2.5 ทำให้เกิดความตระหนักและตระหนกร่วมกันในความไม่เหลื่อมล้ำของมะเร็ง รวย จน หนุ่น สาว แก่ แม่หม้าย เสี่ยงได้เท่ากัน วัยรุ่นเลยค่อย ๆ หันมาสนใจเรื่องประกันสุขภาพ และ ประกันโรคร้ายแรงกันมากขึ้น แต่ด้วยรายได้จำกัด อาจจะยังไม่ถนัดจะจัดเต็มประกันสุขภาพ แม่มณีอยากแนะนำทางเลือกใหม่ลูกครึ่งประกันสุขภาพ และ ประกันโรคร้ายแรง จ่ายค่ารักษาเหมาจ่ายรายปีเหมือนมีประกันสุขภาพ เปิดวงเงินค่ารักษาเหมาจ่ายใหม่ทุกปี แต่ focus ไปที่โรคร้ายแรงยอดฮิต สองค่ายชมพู-ส้มบุกเบิกมาให้เราพิจารณาเจ้าค่ะ
แบบแรกจากค่ายน้องส้มเปรี้ยว F อะไรดี CI หนึ่งเดียว กับรูปแบบแพคเกจภาคบังคับ ขายยกแพคทั้งแบบจ่ายเงินก้อน จ่ายค่ารักษา และ จ่ายค่าชดเชย เอาดี ๆ แม่มณีคิดว่าเป็นแบบประกันโรคร้ายแรงที่คิดมาแล้วอย่างรอบด้านตามชื่อ คือสมมุติถ้าเราโชคร้ายเป็นมะเร็งขึ้นมา เราต้องการทั้งเบิกค่ารักษาในโรงพยาบาล อาหาร ของใช้ ปัจจัยสี่ การใช้ชีวิตประจำวันเราต้องเปลี่ยนไปหมด ล้วนแล้วแต่เป็นค่าใช้จ่ายเพิ่ม ก็มีเงินก้อนออกมาให้ใช้จ่ายใด ๆ จิปาถะนอกโรงพยาบาล นอกจากนั้นถ้าเราต้องนอน admit นาน ๆ ขาดรายได้จากการทำงานไป แผนนี้ก็ให้ค่าชดเชยต่อวันกรณี IPD จากโรคร้ายแรงอีกต่างหาก ก็ถือได้ว่า หนึ่งเดียว ครบ จบ สมชื่อ
กรณีที่เป็นหนึ่งใน 50 โรคร้ายแรง จะจ่ายเงินเงินก้อน 500,000 บาท ซึ่งจ่ายแค่รอบเดียวเท่านั้น เป็นโรคร้ายแรงหลายโรคหลายครั้ง เงินก้อนนี้จ่ายให้รอบเดียวนะเจ้าคะ แต่เมนแดนซ์ของแพคเกจนี้คือการเบิกค่ารักษาได้ในรูปแบบเหมือนประกันสุขภาพเหมาจ่าย มีวงเงินให้เลือกตั้งแต่ 500,000 ถึง 5,000,000 ต่อปี พร้อมค่าห้อง 1500 ถึง 7000 เพียงแต่โรคที่คุ้มครองนั้นจะต้องอยู่ในรายการ 50 โรคที่กำหนด ซึ่งน้องส้มเปรี้ยวก็จัดมาให้ครอบคลุมทุกโรคตัวท้อป เบอร์ตอง น่ารักน่าลุ้นว่าจะเป็น เช่น มะเร็ง หัวใจ สโตรก ไตวาย SLE อัมพาต เสริมทัพด้วยฟังก์ชั่นเสริมอีกประปราย เช่น แพทย์แผนไทย แผนจีน, ศัลยกรรมเต้านม, ไคโรแพคติก แม่มณีลิสต์เอาไว้ให้ในตารางด้านขวา แต่ก็ต้องระวังว่ามันมีเงื่อนไขจุกจิกพอสมควรสำหรับฟังก์ชันเสริมพวกนี้ ศึกษากันให้ดีในใบเสนอขายนะเจ้าคะ ทีเด็ดสุดท้ายของแพ็คเกจ CI หนึ่งเดียว คือ ค่าชดเชยในกรณีที่นอนโรงพยาบาลด้วยโรคร้ายแรงหนึ่งใน 50 โรคตามที่กำหนด ย้ำว่าต้องนอนโรงพยาบาลนะเจ้าคะถึงจะจ่ายค่าชดเชยให้ อันนี้เค้าบังคับขายพ่วงมา เราจะซื้อแยกเฉพาะค่ารักษาไม่ได้เจ้าค่ะ เขาขายยกแพค
ในความคิดเห็นแม่มณีแผน CI หนึ่งเดียวนี้ เบี้ยประกัน “ถูกกว่า” การซื้อประกันสุขภาพแบบค่าห้องธรรมดาแยกค่าใช้จ่าย ซึ่งถึงแม้ว่าค่าห้องแยกค่าใช้จ่ายจะเบิกได้หมดไม่ว่าจะป่วยเล็กป่วยใหญ่ แต่เบิกได้ค่อนข้างน้อย ยิ่งถ้าหากเป็นโรคร้ายแรง ก็ทำใจได้ว่าอาจจะมีส่วนเกินเยอะมาก เปรียบเทียบกันกับการซื้อ CI หนึ่งเดียวตัวนี้ โรคที่ไม่ได้อยู่ในรายการโรคร้ายแรงที่กำหนดจะเบิกไม่ได้เลย แต่ถ้าเป็นโรคร้ายแรงขึ้นมาจะเบิกได้แบบเหมาจ่าย ช่วยแบ่งเบาภาระค่ารักษาไปได้เยอะมากอย่างมีนัยยะสำคัญ แถมวงเงินค่ารักษานั้นเปิดวงเงินใหม่หลักล้านทุกปี แม่มณี prefer ตัวนี้มากกว่า ตามสไตล์เล็ก ๆ ไม่ ใหญ่ ๆ จ่ายจัดเต็ม
ข้อจำกัดเดียวเลยของแผน CI หนึ่งเดียวนี้ ก็คือ มันถูกขายแบบยกแพค ทั้งจ่ายเงินก้อน, จ่ายค่ารักษาจ่ายค่าชดเชยกรณีนอนโรงพยาบาล ยกตัวอย่างวงเงินต่อปี 1,000,000 ค่าห้อง 3000 เบี้ยประกันสำหรับวัยทำงานก็เกือบ 10,000 แล้ว ดังนั้นถ้าใครมองว่าจะทำทั้งแผนนี้และประกันสุขภาพไปพร้อม ๆ กัน ส่งเบี้ยประกันไปตลอดชีวิต ก็อาจจะต้องเจอเบี้ยประกันที่หนักพอสมควร แม่มณีจึงมองว่ามันเหมาะจะเป็น “สายทดแทน” ในกรณีที่ไม่พร้อมจะซื้อประกันสุขภาพเหมาจ่ายมากกว่า ในอนาคตหากมีประกันสุขภาพเพียงพอแล้วก็อาจจะไม่ต้องต่อสัญญา CI หนึ่งเดียวตัวนี้ก็ได้เจ้าค่ะ
สำหรับสายที่มีประกันสุขภาพอยู่แล้ว แต่ด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม ยังรู้สึกกังวลเกี่ยวกับค่ารักษาโรคร้ายแรงอยู่ ตัวอย่างคลาสสิคจากผลการวิจัยสถาบันเรือนแม่มณีอินสติติ๊ว พบว่าคนไทยส่วนใหญ่กลัวโรคมะเร็งที่สุด (ใครก็รู้ ไม่ต้องวิจัยก็ได้นะ) มีลูกค้าหลายคนเลยที่อยากได้ค่ารักษาเฉพาะกรณีโรคมะเร็งด้วยเบี้ยประกันที่ราคาเข้าถึงได้ แม้จะมีประกันสุขภาพอยู่บ้างแล้วก็ยังกังวลใจว่าเทคโนโลยีใหม่ ๆ ในการรักษามะเร็งจะเบิกได้ทั้งหมดจากประกันสุขภาพที่ถืออยู่หรือเปล่า? นี่คือแผนที่ใกล้เคียงความกังวลของท่านที่สุดเจ้าค่ะ เมืองเทยห่วงใย บวก เป็นแผนประกันที่เน้นการจ่ายค่ารักษาจากสองโรคหลัก ก็คือ มะเร็งและไตวายเรื้อรัง ในเมื่อเน้นแค่สองโรค ก็เลยจัดหนัก จัดเต็มในส่วนของเทคโนโลยีการรักษา เรียกได้ว่าวิธีการรักษาอะไรก็ตามที่มีอยู่ในปัจจุบันนี้น่าจะเบิกได้ทั้งหมด (ดูจากตารางหน้าสองได้) แต่ไม่จ่ายค่าห้อง เพราะจริง ๆ แล้วเค้าดีไซน์ไว้สำหรับการซื้อเสริมกับแผนประกันสุขภาพ ก็คือไปเบิกค่าห้องจากประกันสุขภาพเล่มหลัก ส่วนค่ารักษาแพง ๆ เอามาเบิกจากห่วงใย บวกเล่มนี้ มีให้เลือกแบบ 1,000,000 ต่อปีและ 5,000,000 ต่อปี จะซื้อเฉพาะโรคมะเร็งหรือเฉพาะโรคไตวาย ก็ทำได้ หรือจะซื้อทั้งสองโรคพร้อมกันก็จะได้ราคาพิเศษ ซื้อตัวนี้จับคู่กับสัญญาหลักได้ ไม่ต้องพ่วงกับประกันโรคร้ายแรงแบบจ่ายเงินก้อน หรือ ค่าชดเชยรายได้อะไรทั้งนั้น เบี้ยประกันจึงราคาไม่แรง ทั้งในตอนนี้และในอนาคต เรียกได้ว่าสามารถต่อสัญญาคู่กันไปได้กับประกันสุขภาพเล่มหลักตลอดชีวิตเจ้าค่ะ
ถ้าจะถามว่าประกันโรคร้ายแรงกลุ่มนี้มันดีกว่าแบบที่จ่ายเป็นเงินก้อนยังไง เราต้องเข้าใจว่าการเป็นโรคร้ายแรงครั้งหนึ่งนั้น มันไม่ได้สามารถคุมงบได้นะเจ้าคะ คุณหมอจัดไปมีงบให้หนึ่งล้าน ผ่าตัดได้กี่ครั้ง คีโมได้กี่เข็ม เอาเท่าไหร่เท่านั้น ถ้าไม่หายขอตายก็ได้ ไม่อยากให้คนตายขายคนเป็น แต่สุดท้ายคนที่รักคุณเค้าไม่ทนเห็นคุณตายไปต่อหน้าต่อตาได้แบบนั้น แม่มณีเชื่อว่าทุกคนต้องมีคนรู้จักที่เป็นมะเร็ง ได้รับรู้ถึงความสาหัสสากรรจ์ของค่าใช้จ่ายในการรักษา ราคาไม่ได้ต่างกับซื้อบ้านซื้อรถ การมีวงเงินค่ารักษาหลักล้าน “ที่เปิดวงเงินใหม่ได้ทุกปี” ทำให้มีความสบายใจในการรักษาทั้งคนป่วย และครอบครัวไม่ต้องมาลำบากใจกับการตัดสินใจภายใต้ข้อจำกัดของค่าใช้จ่าย โอกาสหายจากโรคมากกว่า หรือถ้าจะต้องหายจากโลกนี้ไปจริง ๆ ก็ไม่ได้สร้างภาระไว้ให้คนข้างหลังมากจนเกินไป ความสบายใจนี้แม่มณีถือว่าคุ้มค่าหนักหนากับเบี้ยประกันราคาหลักพันต่อปี สำหรับใครที่มีประกันสุขภาพเหมาจ่ายที่มีความคุ้มครองเพียงพออยู่แล้ว ประกันโรคร้ายแรงกลุ่มนี้ถือเป็นแค่ optional ไม่ได้ compulsory หรือมีความจำเป็น แต่สำหรับใครที่ยังไม่มีประกันสุขภาพ หรือประกันสุขภาพที่มีเป็นแพคเล็กๆ หรือจ่ายเฉพาะกรณีเป็นผู้ป่วยในเท่านั้น อันนี้แม่มณีเชียร์สุดใจให้ทำประกันกลุ่มนี้เพิ่มเจ้าค่ะ รักนะ จุ้บ ๆ
เจอโรคร้าย จ่ายค่ารักษาเหมาจ่ายต่อปี
อยากได้ประกันโรคร้ายแรงแบบที่จ่ายค่ารักษาเหมาจ่ายไปตลอด ไม่ใช่แค่จ่ายเงินก้อนแล้วจบ
พบกับแบบประกันเช่นนั้นได้แล้ววันนี้ที่ค่ายเมืองเทย และ น้องส้มเปรี้ยวเจ้าค่ะ
แม่มณีเจอเนือง ๆ เด็กวัยรุ่นจบใหม่ ใฝ่ดี เพิ่งมีรายได้ อยากได้ประกันเล่มที่หนึ่ง ส่วนใหญ่มักพึงใจเป็นประกันออมทรัพย์ระยะกลาง - สั้น - หรือสั้นกุด แต่ ณ จุดนี้ PM 2.5 ทำให้เกิดความตระหนักและตระหนกร่วมกันในความไม่เหลื่อมล้ำของมะเร็ง รวย จน หนุ่น สาว แก่ แม่หม้าย เสี่ยงได้เท่ากัน วัยรุ่นเลยค่อย ๆ หันมาสนใจเรื่องประกันสุขภาพ และ ประกันโรคร้ายแรงกันมากขึ้น แต่ด้วยรายได้จำกัด อาจจะยังไม่ถนัดจะจัดเต็มประกันสุขภาพ แม่มณีอยากแนะนำทางเลือกใหม่ลูกครึ่งประกันสุขภาพ และ ประกันโรคร้ายแรง จ่ายค่ารักษาเหมาจ่ายรายปีเหมือนมีประกันสุขภาพ เปิดวงเงินค่ารักษาเหมาจ่ายใหม่ทุกปี แต่ focus ไปที่โรคร้ายแรงยอดฮิต สองค่ายชมพู-ส้มบุกเบิกมาให้เราพิจารณาเจ้าค่ะ
แบบแรกจากค่ายน้องส้มเปรี้ยว F อะไรดี CI หนึ่งเดียว กับรูปแบบแพคเกจภาคบังคับ ขายยกแพคทั้งแบบจ่ายเงินก้อน จ่ายค่ารักษา และ จ่ายค่าชดเชย เอาดี ๆ แม่มณีคิดว่าเป็นแบบประกันโรคร้ายแรงที่คิดมาแล้วอย่างรอบด้านตามชื่อ คือสมมุติถ้าเราโชคร้ายเป็นมะเร็งขึ้นมา เราต้องการทั้งเบิกค่ารักษาในโรงพยาบาล อาหาร ของใช้ ปัจจัยสี่ การใช้ชีวิตประจำวันเราต้องเปลี่ยนไปหมด ล้วนแล้วแต่เป็นค่าใช้จ่ายเพิ่ม ก็มีเงินก้อนออกมาให้ใช้จ่ายใด ๆ จิปาถะนอกโรงพยาบาล นอกจากนั้นถ้าเราต้องนอน admit นาน ๆ ขาดรายได้จากการทำงานไป แผนนี้ก็ให้ค่าชดเชยต่อวันกรณี IPD จากโรคร้ายแรงอีกต่างหาก ก็ถือได้ว่า หนึ่งเดียว ครบ จบ สมชื่อ
กรณีที่เป็นหนึ่งใน 50 โรคร้ายแรง จะจ่ายเงินเงินก้อน 500,000 บาท ซึ่งจ่ายแค่รอบเดียวเท่านั้น เป็นโรคร้ายแรงหลายโรคหลายครั้ง เงินก้อนนี้จ่ายให้รอบเดียวนะเจ้าคะ แต่เมนแดนซ์ของแพคเกจนี้คือการเบิกค่ารักษาได้ในรูปแบบเหมือนประกันสุขภาพเหมาจ่าย มีวงเงินให้เลือกตั้งแต่ 500,000 ถึง 5,000,000 ต่อปี พร้อมค่าห้อง 1500 ถึง 7000 เพียงแต่โรคที่คุ้มครองนั้นจะต้องอยู่ในรายการ 50 โรคที่กำหนด ซึ่งน้องส้มเปรี้ยวก็จัดมาให้ครอบคลุมทุกโรคตัวท้อป เบอร์ตอง น่ารักน่าลุ้นว่าจะเป็น เช่น มะเร็ง หัวใจ สโตรก ไตวาย SLE อัมพาต เสริมทัพด้วยฟังก์ชั่นเสริมอีกประปราย เช่น แพทย์แผนไทย แผนจีน, ศัลยกรรมเต้านม, ไคโรแพคติก แม่มณีลิสต์เอาไว้ให้ในตารางด้านขวา แต่ก็ต้องระวังว่ามันมีเงื่อนไขจุกจิกพอสมควรสำหรับฟังก์ชันเสริมพวกนี้ ศึกษากันให้ดีในใบเสนอขายนะเจ้าคะ ทีเด็ดสุดท้ายของแพ็คเกจ CI หนึ่งเดียว คือ ค่าชดเชยในกรณีที่นอนโรงพยาบาลด้วยโรคร้ายแรงหนึ่งใน 50 โรคตามที่กำหนด ย้ำว่าต้องนอนโรงพยาบาลนะเจ้าคะถึงจะจ่ายค่าชดเชยให้ อันนี้เค้าบังคับขายพ่วงมา เราจะซื้อแยกเฉพาะค่ารักษาไม่ได้เจ้าค่ะ เขาขายยกแพค
ในความคิดเห็นแม่มณีแผน CI หนึ่งเดียวนี้ เบี้ยประกัน “ถูกกว่า” การซื้อประกันสุขภาพแบบค่าห้องธรรมดาแยกค่าใช้จ่าย ซึ่งถึงแม้ว่าค่าห้องแยกค่าใช้จ่ายจะเบิกได้หมดไม่ว่าจะป่วยเล็กป่วยใหญ่ แต่เบิกได้ค่อนข้างน้อย ยิ่งถ้าหากเป็นโรคร้ายแรง ก็ทำใจได้ว่าอาจจะมีส่วนเกินเยอะมาก เปรียบเทียบกันกับการซื้อ CI หนึ่งเดียวตัวนี้ โรคที่ไม่ได้อยู่ในรายการโรคร้ายแรงที่กำหนดจะเบิกไม่ได้เลย แต่ถ้าเป็นโรคร้ายแรงขึ้นมาจะเบิกได้แบบเหมาจ่าย ช่วยแบ่งเบาภาระค่ารักษาไปได้เยอะมากอย่างมีนัยยะสำคัญ แถมวงเงินค่ารักษานั้นเปิดวงเงินใหม่หลักล้านทุกปี แม่มณี prefer ตัวนี้มากกว่า ตามสไตล์เล็ก ๆ ไม่ ใหญ่ ๆ จ่ายจัดเต็ม
ข้อจำกัดเดียวเลยของแผน CI หนึ่งเดียวนี้ ก็คือ มันถูกขายแบบยกแพค ทั้งจ่ายเงินก้อน, จ่ายค่ารักษาจ่ายค่าชดเชยกรณีนอนโรงพยาบาล ยกตัวอย่างวงเงินต่อปี 1,000,000 ค่าห้อง 3000 เบี้ยประกันสำหรับวัยทำงานก็เกือบ 10,000 แล้ว ดังนั้นถ้าใครมองว่าจะทำทั้งแผนนี้และประกันสุขภาพไปพร้อม ๆ กัน ส่งเบี้ยประกันไปตลอดชีวิต ก็อาจจะต้องเจอเบี้ยประกันที่หนักพอสมควร แม่มณีจึงมองว่ามันเหมาะจะเป็น “สายทดแทน” ในกรณีที่ไม่พร้อมจะซื้อประกันสุขภาพเหมาจ่ายมากกว่า ในอนาคตหากมีประกันสุขภาพเพียงพอแล้วก็อาจจะไม่ต้องต่อสัญญา CI หนึ่งเดียวตัวนี้ก็ได้เจ้าค่ะ
สำหรับสายที่มีประกันสุขภาพอยู่แล้ว แต่ด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม ยังรู้สึกกังวลเกี่ยวกับค่ารักษาโรคร้ายแรงอยู่ ตัวอย่างคลาสสิคจากผลการวิจัยสถาบันเรือนแม่มณีอินสติติ๊ว พบว่าคนไทยส่วนใหญ่กลัวโรคมะเร็งที่สุด (ใครก็รู้ ไม่ต้องวิจัยก็ได้นะ) มีลูกค้าหลายคนเลยที่อยากได้ค่ารักษาเฉพาะกรณีโรคมะเร็งด้วยเบี้ยประกันที่ราคาเข้าถึงได้ แม้จะมีประกันสุขภาพอยู่บ้างแล้วก็ยังกังวลใจว่าเทคโนโลยีใหม่ ๆ ในการรักษามะเร็งจะเบิกได้ทั้งหมดจากประกันสุขภาพที่ถืออยู่หรือเปล่า? นี่คือแผนที่ใกล้เคียงความกังวลของท่านที่สุดเจ้าค่ะ เมืองเทยห่วงใย บวก เป็นแผนประกันที่เน้นการจ่ายค่ารักษาจากสองโรคหลัก ก็คือ มะเร็งและไตวายเรื้อรัง ในเมื่อเน้นแค่สองโรค ก็เลยจัดหนัก จัดเต็มในส่วนของเทคโนโลยีการรักษา เรียกได้ว่าวิธีการรักษาอะไรก็ตามที่มีอยู่ในปัจจุบันนี้น่าจะเบิกได้ทั้งหมด (ดูจากตารางหน้าสองได้) แต่ไม่จ่ายค่าห้อง เพราะจริง ๆ แล้วเค้าดีไซน์ไว้สำหรับการซื้อเสริมกับแผนประกันสุขภาพ ก็คือไปเบิกค่าห้องจากประกันสุขภาพเล่มหลัก ส่วนค่ารักษาแพง ๆ เอามาเบิกจากห่วงใย บวกเล่มนี้ มีให้เลือกแบบ 1,000,000 ต่อปีและ 5,000,000 ต่อปี จะซื้อเฉพาะโรคมะเร็งหรือเฉพาะโรคไตวาย ก็ทำได้ หรือจะซื้อทั้งสองโรคพร้อมกันก็จะได้ราคาพิเศษ ซื้อตัวนี้จับคู่กับสัญญาหลักได้ ไม่ต้องพ่วงกับประกันโรคร้ายแรงแบบจ่ายเงินก้อน หรือ ค่าชดเชยรายได้อะไรทั้งนั้น เบี้ยประกันจึงราคาไม่แรง ทั้งในตอนนี้และในอนาคต เรียกได้ว่าสามารถต่อสัญญาคู่กันไปได้กับประกันสุขภาพเล่มหลักตลอดชีวิตเจ้าค่ะ
ถ้าจะถามว่าประกันโรคร้ายแรงกลุ่มนี้มันดีกว่าแบบที่จ่ายเป็นเงินก้อนยังไง เราต้องเข้าใจว่าการเป็นโรคร้ายแรงครั้งหนึ่งนั้น มันไม่ได้สามารถคุมงบได้นะเจ้าคะ คุณหมอจัดไปมีงบให้หนึ่งล้าน ผ่าตัดได้กี่ครั้ง คีโมได้กี่เข็ม เอาเท่าไหร่เท่านั้น ถ้าไม่หายขอตายก็ได้ ไม่อยากให้คนตายขายคนเป็น แต่สุดท้ายคนที่รักคุณเค้าไม่ทนเห็นคุณตายไปต่อหน้าต่อตาได้แบบนั้น แม่มณีเชื่อว่าทุกคนต้องมีคนรู้จักที่เป็นมะเร็ง ได้รับรู้ถึงความสาหัสสากรรจ์ของค่าใช้จ่ายในการรักษา ราคาไม่ได้ต่างกับซื้อบ้านซื้อรถ การมีวงเงินค่ารักษาหลักล้าน “ที่เปิดวงเงินใหม่ได้ทุกปี” ทำให้มีความสบายใจในการรักษาทั้งคนป่วย และครอบครัวไม่ต้องมาลำบากใจกับการตัดสินใจภายใต้ข้อจำกัดของค่าใช้จ่าย โอกาสหายจากโรคมากกว่า หรือถ้าจะต้องหายจากโลกนี้ไปจริง ๆ ก็ไม่ได้สร้างภาระไว้ให้คนข้างหลังมากจนเกินไป ความสบายใจนี้แม่มณีถือว่าคุ้มค่าหนักหนากับเบี้ยประกันราคาหลักพันต่อปี สำหรับใครที่มีประกันสุขภาพเหมาจ่ายที่มีความคุ้มครองเพียงพออยู่แล้ว ประกันโรคร้ายแรงกลุ่มนี้ถือเป็นแค่ optional ไม่ได้ compulsory หรือมีความจำเป็น แต่สำหรับใครที่ยังไม่มีประกันสุขภาพ หรือประกันสุขภาพที่มีเป็นแพคเล็กๆ หรือจ่ายเฉพาะกรณีเป็นผู้ป่วยในเท่านั้น อันนี้แม่มณีเชียร์สุดใจให้ทำประกันกลุ่มนี้เพิ่มเจ้าค่ะ รักนะ จุ้บ ๆ
Share this post :
RELATED PORTFOLIO
เวทีแห่งนี้ไม่มีผู้ชนะ ความสร้างสรรค์ และสลับซับซ้อน คือนิยามของกลุ่มประกันโรคร้ายแรงแห่งสยาม
สวัสดีแฟนพักตร์ (fanpage)...
การกลับมาของ ป๊ะป๋า อ้าซ่า หลังจากแม่มณีไม่ได้มอบมงเค้ามานาน
พี่ใหญ่ภูผาแดง เอจามเอ ออกแผนมาใหม่ก็...