ตีแผ่ แบไต๋ ประกันสุขภาพเหมาจ่าย 2020 ปีของหน้ากาก ควันพิษ โกวิท และแมงเม่าติดดอย

ตีแผ่ แบไต๋ ประกันสุขภาพเหมาจ่าย 2020 ปีของหน้ากาก ควันพิษ โกวิท และแมงเม่าติดดอย

ประกันสุขภาพผู้ใหญ่



       สวัสดีชาวรัตนโกสินทร์เจ้าค่ะ เปิดปีใหม่มา มีเรื่องให้แม่มณีหวาดผวากันไม่เว้นวัน รอดูเสี่ยงทายพืชมงคลปีนี้ พระโคคงจะกินพริก เผ็ดเหลือเกินประเทศไทย ทั้งทหารใจร้าย ไฟป่านี่บ่อยยังกับเผาไล่ที่ มองไปมีแต่คนใส่หน้ากาก เข้าหากัน ทั้งฝุ่นควัน โกวิท แม่งเม่าติดดอยหุ้น บ่นไปก็เท่านั้น แม้อยู่ยาก แต่ยังอยากอยู่ต่อนะเจ้าคะ

       ด้วยสถานการณ์น่ากังวล หลาย ๆ คนอาจกําลังมองหาประกันสุขภาพ มาวันนี้แม่มณีจะตีแผ่ ประกันสุขภาพ ตระกูลเหมาจ่ายกันใหม่อีกครั้ง มันก็มีอะไรใหม่ ๆ เพิ่มเข้ามานะเจ้าคะ รอบนี้แม่มณีจะเอามาประชันกัน 7 ค่ายประกัน ขอ ออกตัวไว้ก่อนว่าเนื้อหามันเยอะ เพื่อความไม่หลุดกรอบ เรามาดูภาพรวมกันก่อน แม่มณีแบ่งประกันสุขภาพเหมาจ่าย ปัจจุบันออกเป็น 4 กลุ่มเจ้าค่ะ

       กลุ่มแรก เหมาจ่ายเมื่อครั้งอดีตกาล กลุ่มนี้คือแผนประกันเหมาจ่ายกลุ่มที่เกิดขึ้นก่อนเพื่อน จึงมีฟังค์ชั่นน้อย กว่ากลุ่มอื่น ๆ ที่พัฒนาตามมาภายหลัง เหมาะกับคนที่จะซื้อเอาไปเสริม เพราะมีแผนเล็ก ๆ ที่ราคาไม่แรงมาก

       กลุ่มสอง เหมาจ่ายไมเนอร์เชนจ์ คือกลุ่มที่พัฒนาจากกลุ่มแรก 1 ระดับถ้วน มันก็จะดีกว่านิดหน่อย แต่ก็จะยัง ไม่ได้เว่อร์วังอังกาบ แต่มีแผนหนึ่งแผนที่เหมาะกับเด็กมากเจ้าค่ะ

       กลุ่มสาม เหมาจ่ายมิลเลนเนียม กลุ่มนี้คือไฮไลท์ คือกลุ่มที่แม่มณีแนะนําสําหรับคนที่มองหาประกันสุขภาพ แบบเล่มเดียวจบ ครบ คุ้ม ฟังค์ชั่นจัดเต็ม แน่นอนเบี้ยประกันก็ไม่ถูก หมื่นกว่าซื้อไม่ได้ แต่ถ้าใครงบถึง กลุ่มนี้ถือเป็น เพชรน้ําหนึ่งสําหรับประกันสุขภาพเหมาจ่าย

       กลุ่มสุดท้าย เหมาจ่ายมหัศจรรย์ กลุ่มนี้คือความพยายามในการตอบสนองความต้องการลูกค้าที่มีสวัสดิการ อยู่บ้างบางส่วน เช่น ข้าราชการ, พนักงานบริษัท หรือแม้แต่คนที่ถือประกันสุขภาพของตัวเองไว้ส่วนหนึ่งแต่กังวลว่าจะ ไม่พอ ข้อดีข้อเด่นของกลุ่มสุดท้ายนี้คือ ความยั่งยืนในระยะยาว เพราะว่าเบี้ยประกันตอนแก่ ๆ มันไม่แรง และด้วย เงื่อนไขความคุ้มครองทําให้การเคลมที่เกินความจําเป็น (overclaims) เกิดขึ้นได้น้อย ก็คาดการณ์ได้ว่าการปรับเพิ่มราคาในอนาคตก็มีแนวโน้มจะน้อยกว่าเหมือนกัน

       ถ้าพร้อมแล้ว เรามาเริ่มกันที่กลุ่มแรกของประกันเหมาจ่าย มี 3 บริษัทที่ยังมีขายแบบนี้อยู่ คือ A จาม A, เทย ประกัน และ เมืองเทย เรียกชื่อแบบแตกต่างกันไป แต่แผนประกันเหมือนกัน 99% เป็นแบบประกันเหมาจ่ายที่จ่ายตาม จริงเฉพาะค่าผ่าตัด และ ค่ารักษาพยาบาลอื่น ๆ ที่เหลือยังคงมีวงเงินจํากัดต่อครั้งหรือต่อวันอยู่ ไม่ว่าจะเป็นค่าแพทย์ เยี่ยมไข้ ยากลับบ้าน และก็ยังมีวงเงินสูงสุดที่เบิกได้ต่อครั้ง ที่คาราคาซังก็คือคีโม ฉายแสง ล้างไต ถ้าไม่นอนโรงพยาบาลจะเบิกได้แค่นิดเดียวเป็นวงเงินต่อปีเท่านั้น สรุป กลุ่มนี้เหมาะกับการซื้อเป็นตัวเสริมเพิ่มเติมในกรณีที่มีสวัสดิการ หรือมีประกันเล่มเก่า อย่างไรก็ดี จะซื้อกลุ่มนี้แผนที่ดีคือแผน 1 เพราะแผนอื่นเบี้ยก็แพงพอ ๆ กับกลุ่ม ประกันเหมาจ่ายที่พัฒนาขึ้นไปแล้ว แม่มณีก็มิเห็นเหตุว่าเราจะซื้อกลุ่มนี้ทําไมถ้าไม่ใช่เพราะเบี้ยถูกกว่าอ่ะเจ้าค่ะ






 

       กลุ่มต่อไปเหมาจ่าย ไมเนอร์เชนจ์ คือกลุ่มที่มีการพัฒนามาหนึ่งช่วงตัว ประกอบด้วยสองค่าย คือ ปลดล้อค เอ็กตร้า ของอลั้นลา กรุงเก่า ซึ่งเพิ่มค่าห้อง ค่าแพทย์อะไรนิดหน่อย และ เปลี่ยนรูปแบบการจ่ายคีโม ฉายแสง ล้างไตผู้ป่วยนอกเป็นแบบจ่ายตามจริง อย่างไรก็ตามปลดล้อค เอ็กตร้าของอลั้นลา หากซื้อแบบไม่มีเงื่อนไขใด ๆ ถือว่ามีผลตอบแทนที่ธรรมดาเมื่อเทียบกับเบี้ยประกันเจ้าค่ะ ในทรรศนะของแม่มณีให้ดีกรีตรงที่มีทางเลือกแบบมีส่วนร่วมจ่าย ซึ่งจะกล่าวถึงในกลุ่มมหัศจรรย์ต่อไป อีกค่ายนึงในกลุ่มนี้ก็คือน้องเปรี้ยว F อะไรดี ซึ่งคงต้องเรียกพี่เปรี้ยวแล้ว เพราะเค้ารวมกับเทยพานิดประกันชีวิต ทําให้เป็นบริษัทประกันชีวิตที่ “ไม่เล็ก" แล้วอ่ะเจ้าค่ะ ประกันเหมาจ่ายของค่ายนี้ เป็นแบบ เดียวที่มีความกล้าหาญไม่ล้อควงเงินอะไรเลย การซื้อประกันเหมาจ่าย F อะไรดี คือการซื้อค่ารักษาผู้ป่วยในจ่ายตามจริงทุกรายการ แผนแรก 550,000 ไปจนถึงแผนสูงสุด 3,300,000 เพียงแต่ว่าแผนที่เบี้ยประกันน่าคบเนี่ย จะเป็นแผนเล็กสุด super ขาไก่ ซึ่งให้ค่ารักษารายปี 550,000 ซึ่งถ้าสําหรับโรคร้ายแรง หรือ การผ่าตัดใหญ่ ๆ ในโรงพยาบาลเอกชนอาจจะไม่พอ แต่สําหรับกรณีเด็กน้อยเนี่ย มันถือเป็นประกันเหมาจ่ายที่ประเสริฐมาก ๆ เพราะเด็กส่วนใหญ่ไม่ ป่วยกันด้วยโรคร้ายแรง มักจะเป็นโรคเล็กน้อย ถี่ๆ บ่อยๆ ซะมากกว่าปีละห้าแสนกว่าเพียงพอ จ่ายตามจริง ไม่จุกจิก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับโรงพยาบาลระดับบน ค่าห้องบานตะเถือกนั้น แม่มณีพูดเลยว่า super ขาไก่ของ f อะไรดีคือ ทางออกของลูกเจ้าพระยาของจริงเจ้าค่ะ






  
       มาถึงเพชรน้ําหนึ่งแล้ว กลุ่มเหมาจ่ายมิลเลนเนียม กลุ่มนี้ปัจจุบันเล่นกัน 4 ค่าย อ้าซ่า ไอ้แข็งแรงเจ้าเก่าที่หวิด ๆ จะปิดการขายไป แต่ล่าสุดปีนี้ป๊ะป๋าออกมาบอกว่าป๋าไหว และจะเปิดการขายต่อไปเรื่อย ๆ ต่อด้วยพี่ติ๊ก อีสลิด เมือง เทย ซึ่งอลังการกว่าอ้าซ่า ทั้งราคาและผลประโยชน์ บวกด้วยสองค่ายที่เล่นด้วย คือ อลั้นลา และ เอจามเอ ที่ปล่อยออก มา 2 แผน พูดเลยว่า ถ่างหน้าจออ่านตารางกันเลยเจ้าค่ะ ต้องให้เค้าสองหน้าเลยสําหรับตารางผลประโยชน์ เพราะมัน มากมาย หลากหลาย มโนสาเร่ ตั้งแต่เรื่องการรักษาจําเป็น ไปจนถึงการป้องกันเช่น การตรวจสุขภาพ หรือ ฉีดวัคซีน มันเยอะมาก ไม่สามารถจะอธิบายกันได้หมด แม่มณีขอมอบเป็นคําอภิปราย 8 ประการดังนี้

       1. ไอ้แข็งแรง และ อีสลิด กวาดตั้งแต่คนชั้นกลางขึ้นไป สองหมื่นกว่าซื้อได้ แต่อลั้นลาชั้นแรก และ เอจามเอ อนันต์นั้น มองกันที่ระดับ VIP อายุ 30 ปี เบี้ยเริ่มต้นที่ห้าหมื่นกว่า ๆ

       2. สองค่ายที่แม่มณีโปรดสุดยังคงเป็นอ้าซ่า ไอ้แข็งแรง และ เมืองเทย อีสลิด สําหรับกลุ่มประชานิยมเบี้ยสอง สามหมื่น แต่อยากเบิกผู้ป่วยนอกได้ด้วย แนะนําอ้าซ่า ไอ้แข็งแรง แผนเท่ เงิน ทอง แต่สําหรับกลุ่มที่เน้นผู้ป่วยใน ชนชั้นกลางนอนโรงพยาบาลหรูเริศ แนะนําอีสลิดแผน 1

       3. อ้าซ่า ไอ้แข็งแรง แผนทอง คือแผนที่แม่มณีรู้สึกเป็นการส่วนตัวว่าคุ้มค่าที่สุด
       4. อลั้นลา ขั้นแรก ใช้ได้สําหรับ รพ. ในเครือ BDMS เท่านั้น
       5. Targeted therapy คือการรักษามะเร็งเฉพาะเจาะจง ผลข้างเคียงน้อยกว่าคีโม แต่ใช้กับมะเร็งบางประเภท

บางเหตุการณ์เท่านั้น และส่วนใหญ่เป็นการให้ยา “ไม่ต้องนอนโรงพยาบาล” มีสองค่ายที่มีวงเงินนี้จ่ายตามจริง คือ เมืองเทย อีสลิด กับ เอจามเอ อนันต์ ส่วนอ้าซ่า ไอ้แข็งแรง กับ อลั้นลา ชั้นแรก ไม่มีวงเงินตรงนี้ให้ ดังนั้นต้องไปเบิกรวม กับวงเงินของผู้ป่วยนอกที่ให้ใช้ในแต่ละแผน

       6. พวกของแถมต่าง ๆ เช่น ฉีดวัคซีน ตรวจสุขภาพ คลอดบุตร จิตเวช แพทย์ทางเลือก ฯลฯ จะอยู่ในแผนสูง ที่เฉลี่ยเบี้ยประกันหลักแสน

       7. ว่าที่แม่ ๆ ที่คิดว่าจะซื้อปีเดียวเพื่อใช้เคลมเรื่องคลอดบุตร แล้วค่อยยกเลิก แทบจะไม่มีทางเป็นไปได้ เพราะ มันมีเงื่อนไขเรื่องระยะเวลารอคอย แนะนําว่าจ่ายค่าคลอดเองจะคุ้มกว่าค่าเบี้ยเจ้าค่ะ

       8. เบี้ยตอนแก่ดุมาก และทุกบริษัทมีสิทธิ์จะปรับราคาเพิ่มได้ในอนาคตอีก หากได้รับการอนุญาตจาก คปภ.









       และกลุ่มสุดท้าย อันนี้เป็นกลุ่มน้องใหม่ที่พยามหาทางรอดอันไพบูลย์ร่วมกันของทั้งบริษัทประกันและลูกค้า จากกลุ่มที่แล้วมันคุ้มครองจัดเต็มก็จริง แต่ปัญหาคือเบี้ยตอนแก่มันแพงมาก แก่แล้วเราไม่มีรายได้ ถ้าเราจ่ายเบี้ยไม่ ไหวก็เท่ากับว่าเราต้องปล่อยขาดไป ไม่เหลือสวัสดิการอะไรเลย เค้าก็เลยออกกลุ่มนี้ขึ้นมาด้วยไอเดียบรรเจิดว่า ทําให้ เบี้ยถูกลง แต่ก็คงจะต้องแลกด้วยอะไรบางอย่างชิมิเจ้าคะ เรามารู้จักอะไรบางอย่างนั้นที่เราต้องยอมแลกเพื่อให้เบี้ยถูก ลงกันดีกว่าเจ้าค่ะ

       1. Deductible หรือ ค่าใช้จ่ายส่วนแรก คือลูกค้ายอมจ่ายเองก่อน ถ้าเกินจากค่าใช้จ่ายส่วนแรกเมื่อไหร่ ที่ เหลือประกันค่อยจ่ายให้ เช่น แผนอลั้นลา เอ็กตร้า (วัวจ่าย) แผน 1 มีส่วนร่วมจ่าย 17,500 ต่อปี ก็หมายความว่า 17,500 บาทแรกเราต้องจ่ายเองก่อน (หรือจะไปให้สวัสดิการอันอื่น หรือประกันเล่มอื่นจ่ายแทนก็ได้) ค่ารักษาส่วนที่เกิน จาก 17,500 เป็นต้นไปในปีนั้นเราก็เคลมจากประกันได้ตามผลประโยชน์ที่ระบุไว้เจ้าค่ะ โดยเฉลี่ยจะทําให้เบี้ยประกันถูกลง จากเบี้ยปกติประมาณ 20-30%

       2. Co-pay หรือ ส่วนร่วมจ่าย คือ แบ่งกันจ่าย เช่น สมมุติซื้อพลูเจนเชี่ยว ซุปเปอร์แกร่ง co-pay 80% หมายความว่า ค่ารักษาที่เกิดขึ้นลูกค้ากับบริษัทประกันแบ่งกันจ่าย โดยลูกค้าร่วมจ่ายค่ารักษา 80% และบริษัทประกัน จ่ายค่ารักษาแค่ 20% และลูกค้าก็จะจ่ายเบี้ยประกันแค่ 20% ของเบี้ยราคาปกติ

       3. เงื่อนไขการเคลม เช่น อ้าซ่า ยืดหยุ่นซิ ซื้อเฉพาะส่วนพื้นฐานอย่างเดียว แบบนี้จะจ่ายค่ารักษาให้โดยมี เงื่อนไขเฉพาะกรณีอุบัติเหตุ /หรือ มีการผ่าตัด /หรือมีการนอนห้อง icu /หรือ ป่วยด้วยโรคมะเร็ง หัวใจ ไตวาย /หรือ อะไรก็ได้แต่สุดท้ายตายคาโรงพยาบาล พูดง่าย ๆ ก็คือ เคสจุ๋มจิ๋มเคลมไม่ได้ จ่ายให้เฉพาะเคสใหญ่ แต่ถ้าติดหนึ่งใน เงื่อนไขของการจ่ายแล้ว ก็จ่ายเต็มตามผลประโยชน์แต่ละแผน

       ใครที่ซื้อประกันแล้วอยากเคลมได้หมด ไม่ต้องจ่ายเองเพิ่ม ไม่ต้องมีเงื่อนไข ข้ามกลุ่มนี้ไป กลุ่มนี้แม่มณีอยาก แนะนําอย่างหนักสําหรับพนักงานบริษัทที่มีประกันกลุ่มแบบติดโต๊ะทํางาน หมายถึงว่า ถ้าลาออก หรือ เกษียณ ไม่ได้ ทํางานให้เค้าแล้ว สวัสดิการก็หาย แล้วทุกวันนี้ก็มองโลกใส ๆ ว่าใกล้เกษียณค่อยทําประกันสุขภาพ ทั้งที่ก็ยังหวั่น ๆ ว่า ตอนนั้นจะทําประกันได้มั้ย จะเป็นความดัน ไขมัน เบาหวาน หัวใจ รึไม่? แล้วถ้าทําไม่ได้ก็ต้องเอาเงินเก็บออกค่ารักษาเอง ตอนแก่ แต่จะให้ทําใจซื้อประกันสุขภาพแพง ๆ ก็เหมือนจ่ายตังค์ฟรี ไม่ได้ใช้ ท่านกําลังประสบปัญหานี้ใช่มั้ย? ลองดู กลุ่มเหมาจ่ายมหัศจรรย์ดูเซ่ซาร่า






       ค่ายแรก อ้าซ่า ยืดหยุ่นซิ สําหรับวัยทํางานเบี้ยหมื่นกว่า ๆ ซื้อไหว ลดหย่อนภาษีหมื่นห้าได้พอดี ถ้าเกิดป่วย เล็กน้อย ไข้หวัด ท้องเสีย ก็เบิกกับที่ทํางานไป แต่ถ้าเคสใหญ่ วุ่นวาย เมื่อไหร่ ไม่ต้องกังวลใจ มีตัวนี้จ่ายให้แบบจัดเต็ม แล้วถ้ามีอันจะต้องออกจากที่ทํางาน อย่างน้อยค่ารักษาพยาบาลกรณีหนัก ๆ เบิกได้ มาพร้อมเบี้ยประกันจ่ายไหวไป ตลอดชีวิตอายุ 80 เบี้ยยังไม่ถึงแสนเลยเจ้าค่ะ

       ค่ายที่สอง พลูเจนเชี่ยว ซุปเปอร์แกร่ง แรงและรายละเอียดเยอะ เพราะเลือกได้ว่าจะซื้อแบบมีค่าใช้จ่ายส่วนแรก ลดเบี้ยไป 30% แล้วจะซื้อ co-pay เพิ่ม ก็ยังลดเบี้ยไปอีกรอบ กรณีจ่ายเบี้ยให้ถูกที่สุดที่แม่มณีคิดให้คือซื้อแบบมีส่วน ร่วมจ่ายด้วย และก็ซื้อ co-pay อีก 80% คือให้ประกันจ่ายให้แค่ 20% เท่านั้น อายุ 30 เบี้ยประกันไม่ถึงหมื่น แม่มณี แนะนําสําหรับข้าราชการหรือรัฐวิสาหกิจ เพราะบางอย่างสวัสดิการไม่ครอบคลุม แล้วตัวนี้ถ้าศึกษาดี ๆ ยังสามารถ เปลี่ยนอัตรา co-pay ได้ด้วยในอนาคต บอกเลยว่าใครสนใจตัวนี้ ไปคุยกันกับบ่าวไพร่แม่มณี อธิบายทั้งหมดตรงนี้จะ โดนอีก 2 หน้ากระดาษ เอาเป็นว่ามันเหมาะสําหรับคนที่มีสวัสดิการอยู่แล้วส่วนหนึ่ง และ ราคามันดี และมันมีทางเลือก เยอะเจ้าค่ะ

       ค่ายสุดท้ายก็คืออลั้นลา ปลดล้อค เอกตร้าที่แม่มณีติดไว้ว่าสามารถซื้อแบบมีค่าใช้จ่ายส่วนแรกได้ เบี้ยประกัน จะลดลงไปประมาณ 20% ซึ่งตัวนี้จะเหมาะสมมากกับใครที่มีค่าห้องแบบดั้งเดิม หรือมีสวัสดิการบริษัทแบบเหมาจ่ายต่อ ครั้ง เช่นบางบริษัทจ่ายค่ารักษาให้ไม่เกิน 50,000 ต่อปี ส่วนที่เกินจากของบริษัท เอามาเบิกกับประกัน แต่ถ้าเรามาดูเบี้ย จะเห็นว่าแผนสามขึ้นไป เบี้ยประกันเริ่มแพงสูสีกับกลุ่มมิลเลนเนียมที่เบิกได้จัดเต็ม แม่มณีก็เลยแนะนําว่าอลั้นลา ปลด ล้อค เอกตร้า แผนที่น่าสนใจคือแผนหนึ่งและสองมากกว่า ถ้าจะขึ้นไปแผนสามแล้วล่ะก็ ไปซื้อกลุ่มมิลเลนเนียมเลยน่าจะ คุ้มกว่าเจ้าค่ะ



       แม่มณีได้จัดทําลายแทงประกันสุขภาพเหมาจ่ายทั้ง 37 แผนให้เห็นภาพรวมว่าแผนไหนเบิกอะไรได้บ้าง และเบี้ย ประกันตอนแก่ของแต่ละแผนแพงขนาดไหน เอาไว้ใช้คัดเลือกตัวที่สนใจแล้วค่อยไปศึกษาลงในรายละเอียด ที่สาธยาย มาทั้งหมด เพราะจะบอกว่า แต่ละกลุ่มนั้นมันเหมาะกับกลุ่มคนที่แตกต่าง เดี๋ยวนี้ประกันเหมาจ่ายออกแผนมามากมาย จนแทบจะพูดได้ว่า ทุกกลุ่มคน ชนชั้น สาขาอาชีพ ควรมีประกันสุขภาพเหมาจ่ายแบบนี้อย่างน้อยคนละเล่ม ไม่ซื้อ ประกันสุขภาพเพราะไม่เคยนอนโรงพยาบาล แม่มณีว่ามันไม่ใช่แนวคิดปัจจุบันทันสมัยอีกต่อไปแล้ว ยุคโกวิท 2020 นี้ อาหารก็ต้องคลีน ฟิตเนสก็ต้องเข้า ล้างมือ กินร้อน ช้อนกลาง ใส่หน้ากาก ซื้อเครื่องกรอง แต่ถ้าลองทุกอย่างแล้วยัง ติด ก็ต้องนอนโรงพยาบาลรักษากันไป มีประกันกลุ่มก็ดีใจ แต่ถึงบริษัทปิดตัว หรือเลิกจ้างไปก็ยังมีประกันออกให้ จะยัง ไง กรูก็ต้องรอดดดดด!!!


 

Share this post :


RELATED PORTFOLIO