มหากาพย์โรคร้ายแรง ตอน รวมมิตรเขียนใหม่ ยิ่งใหญ่ กว่าเดิม
ประกันโรคร้ายแรง
เวทีแห่งนี้ไม่มีผู้ชนะ ความสร้างสรรค์ และสลับซับซ้อน คือนิยามของกลุ่มประกันโรคร้ายแรงแห่งสยาม
สวัสดีแฟนพักตร์ (fanpage) ทุกท่าน แม่มณีรู้ตัวดีว่าหายไปนาน แต่ที่หายไปนั้นก็เพื่อไปกวดขันบริหารบ่าวไพร่ในเรือนแพลูกบวบที่มีอยู่อย่างจำกัด ให้สามารถตอบสนองความต้องการข้อมูลอย่างไม่จำกัดของพวกเรา เมื่อเห็นว่าพอจะเป็นระเบียบขึ้นมาบ้าง แม่มณีจึงรีบกลับมาทำงานถนัด ก็คือจิกกัดแบบประกันแต่ละบริษัทกันต่อ และที่แม่มณีมิอาจแบกหน้าบ่ายเบี่ยงได้อีกต่อไป จำต้องมาสะสางบทสุดท้ายของโรคร้ายแรง แต่กว่าจะมาถึงวันนี้ ก็ดันมีแบบประกันโรคร้ายแรงใหม่ ๆ ที่น่าสนใจกำเนิดขึ้นมาอี๊กกกก แม่ก็เลยขอถือโอกาสสังคายนารวมกันมาทุกกลุ่มก้อน เอาว่าอ่านบทนี้ไป มีไอเดียไปเลือกประกันโรคร้ายแรงกันได้เอง
ความคิดสร้างสรรค์ของบริษัทประกันเกี่ยวกับประกันโรคร้ายแรงนั้น ยากแท้หยั่งถึง บางแบบแม่มณีก็ทึ่งในความจุดธูปครีเอท ออกตัวก่อนว่าแม่มณีไม่สามารถรวบรวมมาทุกแบบประกันในตลาดได้ แต่ก็มั่นหทัยว่ารวบรวมตัวที่น่าสนใจไว้มากมายเพียงพอ แม่ต้องขอบอกก่อนว่า แบบไหนที่แม่มณีว่าโสภา ใช่ว่าจะเหมาะสมกับทุกคนเสมอไป ประกันโรคร้ายแรงนั้นไซร้มันมากมาย ประกวดประขันชนกันตรง ๆ ไม่ได้ ต้องเลือกที่ใช่เอาเอง
ไอเดียของการทำประกันโรคร้ายแรงนั้น แท้จริงก็เหมือนกับการเก็บเงินไว้รักษาตัวเอง เริ่มจากวันนี้อายุ 30 ปี กลัวเป็นโรคร้ายแรงจัด ก็เลยเก็บอัฐไว้วันละ 100 บาท เท่ากับปีละ 36,500 ใส่ไว้ในสินทรัพย์อะไรซักอย่าง ตั้งใจจะเก็บไป 20 ปี หวังใจว่าถ้าดันซวยช่วยไม่ได้ ก็จะเอาเงินก้อนนี้ไว้รักษา ผ่านไป 20 ศก สมมุติว่าได้ผลตอบแทน 2% ต่อปี อายุ 50 จะมีเงินอยู่แปดแสนกว่า แต่ว่าก็ยังแข็งแรง วางเงินแช่แป้งไว้ต่อไป อายุ 60 จะกลายเป็นล้านแปดหมื่น ก็ยังไม่เป็นโรคร้ายแรง ก็ยังวางเงินแช่แป้งต่ออย่างมั่นคง อายุ 70 จะกลายเป็นล้านหนึ่งแสนสองหมื่น อ๊ะ เป็นโรคร้ายซะที ดีใจจริง ถอนเงินก้อนนี้ออกมารักษาได้ มองย้อนกลับไปช่างภูมิใจในตัวเอง เราได้วางแผนไว้ดี วันนี้ป่วยก็ยังมีเงินก้อนที่สู้อุตส่าห์เก็บมาตั้งแต่วันที่แข็งแรง ไม่ต้องเป็นภาระลูกหลานมาจ่ายค่ารักษา ว่าแล้วก็นอนตายตาหลับ
ตื่นนนนน! เจ้าค่ะ มันจะมีซักกี่คนที่ทำได้เจ้าคะ ทุกคนน่ะกลัวโรคร้ายแรง แต่ส่วนใหญ่ก็แกล้ง ๆ คิดกันไปว่าไม่ใช่เราที่จะเป็น จะให้เห็นความสำคัญถึงขนาดกันเงินไว้ มันก็ใช่ที่ มีหลายอย่างต้องซื้อ มือถือก็ต้องเปลี่ยน แม้นว่าชนะใจในการเริ่มต้น แต่ก็ยังต้องอดทนความเย้ายวนของจำนวนเงินเก็บที่มากขึ้นเรื่อย ๆ เห็นแล้วมันน่าถอนมาใช้ จะเหลืออีกกี่คนที่จิตใจมั่นคง สมมุติว่ามีบุคคลผู้มีวินัยการเงินถึงเพียงนั้น ก็ยังมั่นใจไม่ได้ว่าโรคร้ายมันจะมาตอนไหน เกิดเก็บเงินไปแค่ 5 ปี มีก้อนเนื้อมะเร็งขึ้นมามิได้นัดหมาย มีวินัยใช่ว่าจะรอด บริษัทประกันเค้าก็เลยคิดวิธีปลอดความเสี่ยงมาให้เราสารพัดรูปแบบ แม่มณีขอแบ่งเป็น 3 กลุ่มหลัก ๆ ดังนี้
กลุ่มแรก คือกลุ่มโรคร้ายแรงที่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับสัญญาหลัก จักตีฆ้อง ร้องตะโกนบอกฟ้าว่า “จ่ายเบี้ยคงที่” เป็นคีย์เวิร์ด แบบประกันลักษณะนี้นั้นก็เปรียบเสมือนการฝากเงินไว้กับบริษัทประกัน แต่แทนที่จะได้ผลตอบแทนเป็นตัวเงิน ขอเป็นความคุ้มครองโรคร้ายแรงตั้งแต่วันแรกที่ทำดีกว่า หากว่าซวยเป็นโรคร้ายแรง ก็ได้เงินก้อนเลย แต่สุดท้ายหากโชคดีไม่เป็นโรคร้าย เงินก้อนนี้จะคืนไปให้ลูกหลาน หรือถ้าอยู่นานพอก็จะคืนให้ไปใช้ก่อนตาย (คิดซะว่าไม่ได้ใช้ไปดีกว่าเจ้าค่ะ ครบกำหนดอายุ 85 ปี, 99 ปี งิ)
ลักษณะเด่นประจำกลุ่มนี้ก็คือ “ได้ตังค์คืน” คือ มันไม่ใช่เบี้ยจ่ายทิ้ง อย่างไรเสียเราได้ตังค์คืนไม่ว่าทางเป็น หรือ ทางตาย และอีกเรื่อง คือ “ได้ตังค์เร็ว” นั่นก็คือการแบ่งให้เงินส่วนหนึ่งมาก่อนตั้งแต่ระยะเริ่มต้น หรือ ปานกลาง ไม่ต้องป่วยแบบอ้างว้างในช่วงแรก ๆ และมีเพิ่มเติมพิเศษสำหรับอลั้นลา กรุงเก่า จะเพิ่มลูกเล่น “ได้ตังค์ฟรี” เข้ามาด้วย ก็คือกรณีเป็นโรคร้ายกลุ่มระยะเริ่มต้นหรือปานกลาง เค้าก็เข้าข้างเราว่าเราคงจะค่าใช้จ่ายมากมาย กระนั้นไซร้ ไม่ต้องจ่ายเบี้ยเลยละกัน แต่ว่าความคุ้มครองที่เหลือนั้นยังไม่ได้เคลม ภายหน้าเป็นระยะร้ายแรงก็ยังได้ตังค์เหมือนเดิม
สำหรับกลุ่มนี้ แม่มณีเคยเชียร์ A จาม A ที่มีความเรียบง่ายกระจายโรค เพราะแม้อลั้นลาจะมีลูกเล่นเยอะสุด ให้หยุดชำระเบี้ยถ้าเป็นระยะเริ่มต้น แต่ต้องแลกมาด้วยเบี้ยประกันที่แพงกว่าอย่างมีนัยยะ หรือ เมืองเทยที่จะมีโรคบางโรคได้เงินเยอะ แต่ก็แลกด้วยบางโรคก็ได้เงินน้อย และจำนวนโรคก็น้อยกว่า แต่ทว่า ไม่นานที่ผ่านมา ป๊ะป๋าอ้าซ่าเจ้าเก่า เค้าขอเล่นในสนามนี้ด้วย และตามสไตล์กรุงเทย อ้าซ่า ที่มีความบ้าบิ่นเป็นลักษณะประจำค่าย ก็ขนจำนวนโรคมาให้มากกว่า พร้อมเบี้ยประกันที่ถูกกว่า เพิ่มเติมว่าสามารถเลือกระยะเวลาชำระเบี้ยได้อีกต่างหาก เรียบง่ายเหมือนกัน แต่ถูกกว่า แม่ก็เลยว่า “ฉันชิลล์” ตัวนี้น่าสนใจสุดในกลุ่ม
มาที่กลุ่มที่สอง คือกลุ่มประกันโรคร้ายแรงยุคบุกเบิก ที่มีจุดเด่นที่การจ่ายเบี้ย “ถูกทิ้ง” แปลว่าเบี้ยถูก และจ่ายทิ้ง ตรวจพบโรคตามเงื่อนไขก็ได้เงินก้อน ถ้าไม่เป็นโรคร้ายก็จ่ายเบี้ยทิ้ง เหมาะอย่างยิ่งกับวัยสร้างเนื้อสร้างตัวที่ มีตังค์น้อย เบี้ยต่อปีถูกมาก แต่หากเป็นโรคร้ายก็ได้เงินก้อนใหญ่ แก่ ๆ ไปเบี้ยแพงขึ้นตามอายุ ก็ค่อยไปคิดดูว่าจะส่งต่อหรือไม่ มองกันไปเป็นปีต่อปี หรือกับบางคนที่ยังไม่พร้อมจะจ่ายเบี้ยประกันสุขภาพเต็มรูปแบบเป็นหลักหมื่น ก็เริ่มต้นซื้อโรคร้ายแรงราคาหลักพันไว้ ยามใดรวยพอทำประกันสุขภาพอย่างเพียงพอแล้วจะหยุดส่งโรคร้ายแรงตัวนี้ไปก็ยังได้ กลุ่มนี้โดยส่วนใหญ่จะจ่ายให้เฉพาะระยะรุนแรงแล้วเท่านั้น จะถ่มถุยกันที่การแถมโรคระยะเริ่มต้นบริษัทละหนึ่งถึงสองโรค ยกเว้นเพอร์เฟกต์ซะของเมืองเทย ที่แม่มณีเห็นความพยายามจะจ่ายให้ตั้งแต่ระยะเริ่มต้น และ ปานกลาง ถ้าตายไม่ตรงโรคก็ยังจ่ายอีกต่างหาก แม้เบี้ยแพงกว่าแต่เป็นความคุ้มค่าที่คู่ควร รองลงมาที่น่าสนใจก็คือ อลั้นลา กรุงเก่า ที่เข้าใจง่าย เบี้ยไม่แพง และโรคก็มีถึง 48 โรค ถือเป็นประกันโรคร้ายแรงที่อาจไม่ชนะทุกประตู แต่ก็ดูเข้าถึงง่ายและราคาจ่ายได้ไม่ต้องใคร่ครวญ
กลุ่มสุดท้าย คือกลุ่ม GenY ยักแย่ยักยัน กลุ่มนี้นั้นมีตังค์อย่างเดียวไม่พอ ต้องขอ IQ ผ่าน งานละเอียด จุกจิกเกินบรรยาย แม่มณีต้องขอเลยว่าไม่สามารถอธิบายได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ อยากรู้อยากเห็นแบบประกันไหนเป็นพิเศษ ให้ไลน์ไปถามที่ทีมงานบ่าวไพร่ อธิบายพอสังเขปว่ากลุ่มนี้จะมีลักษณะโดดเด่นที่ ได้ตังค์ซ้ำ เพราะแบ่งเป็นกลุ่มโรค สี่กลุ่มบ้าง ห้ากลุ่มบ้าง หกกลุ่มบ้าง แล้วแต่ความสร้างสรรค์ และจะเคลมได้ซ้ำ ๆ กัน ไม่ใช่เป็นระยะรุนแรงครั้งเดียวแล้วจบสัญญา สำหรับ 3 ค่ายที่มาเต็ม คือ เมืองเทย เมาติเปิ้ล, อ้าซ่า ฉันแคร์ และ กรุงเมพ ซุปเปอร์แมน ซื้อทุน 1 ล้าน จะได้วงเงิน 1 ล้านต่อ 1 กลุ่มโรค ถ้าโชคดีเป็นโรคหลาย ๆ โรค กระจายหลาย ๆ กลุ่ม ก็คุ้มกันบานตะไทจ่ายเบี้ยหลักพัน เคลมกันได้หลาย ๆ ล้าน ส่วนความแตกต่างกันอยู่ที่ Feature คือ เมาติเปิ้ล และ ซุปเปอร์แมน จะจ่ายเฉพาะระยะรุนแรงเท่านั้น ส่วนอ้าซ่านั้นจะ ได้ตังค์เร็ว จ่ายตั้งแต่ระยะเริ่มต้น, ปานกลางด้วย แถมอ้าซ่า และ เมืองเทยยังมีเพิ่มการ ได้ตังค์ฟรี มีการหยุดชำระเบี้ย กรณีเคลมโรคร้ายแรงกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งไป 1 ล้านแล้ว ไม่ต้องจ่ายเบี้ยต่อ แต่วงเงินกลุ่มที่เหลืออีก 4 กลุ่ม (ไม่นับกลุ่มโรคร้ายแรงเด็ก) กลุ่มละล้าน ยังคุ้มครองต่อเนื่อง ถ้าเป็นเมืองเทย คุ้มครองต่อเนื่องอีก 10 ปี ถ้าเป็นอ้าซ่า ยังคุ้มครองต่อให้ถึงอายุ 85 เลยจร้า แต่อ้าซ่ามีจุดที่น่าหงุดหงิดคือพวกระยะเวลารอคอยการเคลมระหว่างกลุ่ม เช่น ถ้าเคลมมะเร็งไปแล้ว ตอนหลัง เป็นโรคหัวใจอีก ต้องมีระยะห่างอย่างน้อย 1 ปีนับจากวันที่รักษามะเร็งหายขาด มีความยุบยับในเงื่อนไข ซื้อไว้ได้กรมธรรม์เล่มหนาแทบจะเท่าฝาบ้าน ลำพังนิยามโรค 100 อาการก็อ่านกันตาหูแฉะ แต่ด้วยความคุ้มครองอื้อซ่าที่จัดมา พร้อมกับว่าเบี้ยประกันราคาถูกใจ แม้ว่าจะมีเงื่อนไขแต่แม่ก็อดไม่ไหวต้องให้ดาวอยู่ดี ถ้ารับเงื่อนไขเค้าได้ ก็จัดไป จ่ายผลประโยชน์หนัก เบี้ยถูก เริ่ด
สำหรับอีก 2 แบบประกันที่อยู่ในกลุ่มนี้ แต่มีรูปแบบการจ่ายผลประโยชน์ที่แตกต่างตัวแรกก็คือ เอ จาม เอ CI + ทอง เป็นการดองกันระหว่างแบบประกัน อี CI อ้า ในกลุ่มที่สอง กับแบบประกันน้องใหม่อีกตัวที่จ่ายผลประโยชน์โรคร้ายระยะเริ่มต้น 250,000 กับเงินทยอยจ่ายงวดละ 200,000 อีกห้างวดถ้าเป็นระยะรุนแรง พอมารวมกันเลยกลายเป็นแบบที่มีความเฉพาะตัวว่าจะจ่ายเงินก้อนแรกในโรคร้ายแรงระยะเริ่มต้น 250,000 และถ้าเป็นโรคร้ายแรงก็จะจ่ายเงินก้อนทันที 1 ล้าน และยังจ่ายต่อให้อีก 5 งวด งวดละ 200,000 จริง ๆ แล้วถ้าวัดความหวือหวาก็อาจไม่ได้ให้ผลประโยชน์อื้อซ่าเท่ากรุงเทย อ้าซ่า แต่ว่าแม่มณีแอบคิดว่าเป็นรูปแบบการจ่ายเงินที่เหมาะสมหากป่วยเป็นโรคร้ายขึ้นมาจริง ๆ ระยะแรกก็จ่าย ระยะรุนแรงก็ได้เงินก้อน แถมยังมีทยอยจ่ายให้อุ่นใจอีก 5 ปี แม่มณีจึงเห็นควรให้ดาวกับความสร้างสรรค์นี้ แม้ว่ามันจะแพงไปหน่อยก็ตาม และแบบสุดท้ายมาใหม่จากค่ายพลู เจน เชี่ยว ชื่อ ซุปเปอร์คุ้ม แต่เห็นเบี้ยประกันแล้วแม่ว่ามันไม่ค่อยคุ้มนะเจ้าคะ ถึงแม้ว่าจะคุ้มครองนานถึงอายุ 99 ปี และไม่มีระยะเวลารอคอยการเคลมระหว่างโรคยุบยับ แต่ว่ามันก็เคลมได้ไม่เยอะ แม่มณีมิโปรด มิเห็นความโดดเด่นเท่าใดนัก
อ่านมาจนครบทั้งสามกลุ่มแล้วนะเจ้าคะ จะเห็นได้เลยว่า “งง” คือ “มง” ไม่รู้จะลงอันไหน มันมีความวุ่นวายเปรียบเทียบกันไม่ได้หมัดชนหมัด แม่มณีเห็นว่ามันขึ้นอยู่กับใครให้ความสำคัญกับอะไรมากกว่า ลางเนื้อชอบลางยา แม่จึงมาสรุปคร่าว ๆ กันให้เห็นเป็น Feature หลัก 6 หัวข้อ เพื่อง่ายต่อการหาประกันโรคร้ายแรงให้กับทุกท่านนะเจ้าคะ ใครให้ความสำคัญกะเรื่องไหน ก็เลือกเฟ้นกันตามอัธยาศัยในตารางสรุปส่งท้ายนะเจ้าคะ (แม่พยายามแล้ว ละเอียดกว่านี้แม่มณีว่าต้องทำเป็นวิทยานิพนธ์)
1. มีตังค์น้อย คือ แบบประกันที่ราคาไม่แรง ราคาที่แม่ให้ดูจะเป็นราคาสัญญาเพิ่มเติมอย่างเดียวยังไม่รวมสัญญาหลัก ยกเว้นบางตัวขายรวมกับสัญญาหลักเป็นแพคเกจแยกจากกันไม่ได้ แม่ก็ใส่ราคารวมไว้ให้พร้อมดอกจันนะเจ้าคะ
2. ได้ตังค์เร็ว จ่ายตั้งแต่ระยะเร่ิมต้น ปานกลาง ไม่ต้องรอเป็นระยะรุนแรงแล้วค่อยได้เงิน
3. ได้ตังค์ซ้ำ เป็นแบบประกันที่สามารถเคลมได้หลาย ๆ โรคร้ายแรง ไม่ใช่ว่าเป็นโรคร้ายแรงโรคเดียวแล้วจบสัญญาเลย เพราะใครจะรู้ กรูอาจจะซวยกว่าที่คิด ผ่าตัดบายพาสหัวใจ หายแล้วดันไปเป็นหลอดเลือดสมอง ต่อด้วยการลองของเป็นมะเร็งอีกซักรอบนึง ตายช้า แต่ว่าอุดมโรค
4. ได้ตังค์คืน เป็นแบบประกันที่เบี้ยประกันไม่ได้จ่ายทิ้ง ไม่ว่าจะเป็นหรือไม่เป็นโรคร้ายแรง ยังไงก็ได้คืนเป็นมรดกตอนตายให้ลูกหลาน หรือถ้ายังสุขสำราญอยู่จนครบกำหนดอายุ 85 - 99 ปี ก็ได้เงินก้อนมาใช้ตอนแก่ (แก่มาก ๆ)
5. ได้ตังค์ฟรี คือ การไม่ต้องชำระเบี้ยต่อ ในกรณีที่ตรวจพบโรคร้ายแรงไปแล้ว แต่ยังคงมีความคุ้มครองต่อเนื่องในโรคที่ยังไม่ได้เป็น อาจเคลมได้เพิ่มอีกฟรี ๆ ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้ส่งเบี้ยแล้ว
6. ตายได้ตังค์ คือ แบบประกันที่แม้ว่าจะไม่ได้เป็นโรคร้ายแรงตามรายการก็ตาม แต่ถ้าเสียชีวิตไม่ว่าจากสาเหตุใด ก็จ่ายเงินทุนประกันเสมือนว่าเป็นโรคร้ายแรง ไม่ต้องกลัวว่าจะเลือกโรคผิดคิดจนตัวตายสุดท้ายไม่ได้เงินประกัน ทั้งนี้ทั้งนั้นไม่รวมความคุ้มครองชีวิตจากสัญญาหลักนะเจ้าคะ อันนั้นมันต้องมีทุกตัวอยู่แล้ว
สุดท้ายแต่สำคัญที่สุด แม่มณีอยากฝากไว้ให้คิด การซื้อประกันโรคร้ายแรง เบี้ยเพียงน้อยนิดที่เสียไป หาใช่เพื่อความคุ้มค่า เพราะว่าความคุ้มแลกมาด้วยการเป็นโรคที่น่ากลัว ๆ ทั้งนั้น คิดคำนวน ช่างเลือกกันมากเกินไป สุดท้ายคำตอบที่ได้อาจกลายเป็น “ไม่ทำ” แล้วก็จะช้ำ ทำไมกรูไม่จิ่มมั่วทำ ๆ มันไปซักตัว แม่มณีขอตัวไปซื้อเพิ่มอีกซักฉบับละกัน เขียนแล้วมันอิน
Share this post :
RELATED PORTFOLIO
ลูกครึ่งประกันสุขภาพ กับ ประกันโรคร้ายแรง
เจอโรคร้าย จ่ายค่ารักษาเหมาจ่ายต่อปี
อยากได้ประกันโรคร้ายแรงแบ...
การกลับมาของ ป๊ะป๋า อ้าซ่า หลังจากแม่มณีไม่ได้มอบมงเค้ามานาน
พี่ใหญ่ภูผาแดง เอจามเอ ออกแผนมาใหม่ก็...