ประกันเด็ก เปลี่ยนอิหยังคื้อบ่อยแท้ อิแม่ตามไม่ทัน

Special EP: รวบรวมการเปลี่ยนแปลงประกันเด็กในช่วงครึ่งปีหลัง

   แม่มณีผละไปทำงานจัดอบรมตัวแทนมาแป๊บเดียว เลี้ยวกลับมากะว่าจะมารีบรวบรวมแบบประกันลดหย่อนภาษีปีนี้ เพราะนี่ก็ไตรมาสสุดท้ายแล้ว แต่ไม่แคล้วบ่าวไพร่ขึ้นเรือนมาแจ้งข่าวทุกวี่วัน ว่าประกันเด็กเปลี่ยนแบบ เปลี่ยนกฎ ปรับราคากันจนพ่อแม่นั้นหัวหมุนไปหมดแล้ว ก่อนคลอดเล็งไว้ ลูกครบ 1 เดือนปิดการขาย บางรายโดนจดหมายขอเพิ่มเบี้ยประกัน บ่าวไพร่มันบอกว่ายัง move on ไม่ได้ ต้องกลับมา update ประกันเด็กกันใหม่อีกรอบ สำหรับ EP นี้จะเป็นการรวบรวมการเปลี่ยนแปลงสำคัญ ๆ เกี่ยวกับประกันเด็ก พร้อมเสนอแนะวิธีการรับมือในทรรศนะของแม่มณี อ่านปากแม่ดี ๆ นะเจ้าคะ “ในทรรศนะของแม่มณี” ไม่ใช่ทุกคนต้องทำตามนี้นะเจ้าคะ!

    ข้อ 1. ค่าห้องเด็กค่ายอ้าซ่า ปรับเพิ่มเบี้ยลูกค้าเก่า


    กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ประกันเด็กแบบค่าห้องแยกค่าใช้จ่ายของค่ายอ้าซ่านั้นแสนประเสริฐ เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดีที่สุดของเด็กเล็ก แล้ววันหนึ่งป๊ะป๋าอ้าซ่าก็บอกว่าเลิกขาย สะเทือนใจพ่อแม่ถ้วนหน้า ที่สะเทือนกว่าคือตัวแทน รีบซื้อขายกันแทบไม่ทัน หนึ่งในนั้นคือแม่มณีเอง สารภาพกันตรง ๆ ว่าแม่มณีก็เป็นส่วนหนึ่งซึ่งทำให้ป๊ะป๋าขาดทุน น้องมะนาวเคลมเกินเบี้ยประกันที่จ่ายมา 3 ปีติดแล้ว แม่ขอโทษ แม่พยายามแล้ว นอนแค่ปีละครั้งค่ารักษาก็ยังเกินเบี้ย และวันนี้ก็มาถึง จดหมายน้อยจากป๊ะป๋าอ้าซ่าแจ้งว่า อ้าซ่าขอเพิ่มเบี้ยประกัน ใครได้จดหมายเหมือนกัน ไม่ต้องตกใจ โดนกันไปถ้วนหน้าเจ้าค่ะ ทีนี้เราจะทำอย่างไรต่อ

    สำหรับคุณลูกที่มีประวัติสุขภาพ มีการเคลมไปแล้วในโรคที่เป็นไปได้ว่าจะไม่จบแค่ครั้งเดียว อาทิเช่น ไซนัส, ภูมิแพ้, RSV, ปอดอักเสบ, มีประวัติอาการชัก เทือกนี้ แม่มณีแนะนำว่าต่อไปเถอะเจ้าค่ะ อย่าคิดมาก แม้จะพิจารณาราคาหลังปรับเพิ่มแล้วก็ยังถือว่าถูก แล้วถ้าลูกเรามีประวัติ การจัดประกันเล่มใหม่ มีความเป็นไปได้สูงที่อาจมีการยกเว้นความคุ้มครอง

    สำหรับคุณลูกที่มั่นใจว่าแข็งแรง ประวัติขาวสะอาด แม่มณีก็แบ่งเป็น 2 กรณี กรณีแรกคืออายุไม่ถึง 6 ขวบ แม่มณียังคงแนะนำให้ต่อกับป๊ะป๋าไปก่อนอยู่ดี หากย้ายค่ายตอนนี้ตัวเลือกที่ดีกว่าอ้าซ่ามีอยู่น้อยมาก เพราะค่าห้องเด็กค่ายนี้ มีความพิเศษคือจ่ายส่วนเกินค่ารักษาพยาบาลอื่น ๆ กับค่าผ่าตัดให้อีก 70% เป็นฟังก์ชั่นที่แทบจะหาไม่ได้แล้วสำหรับเด็กเล็ก เพราะฟิลหลอดไฟกับ R คะเน ล่าสุดก็ยังหนี ส่วนกรณีคุณลูกอายุ 6 ขวบขึ้นไป อันนี้มีทางเลือกเจ้าค่ะ เราอาจจะขยับเป็นประกันเหมาจ่ายได้ เพราะประกันเด็กอายุ 6 ขวบขึ้นไปราคาไม่โหดร้ายแล้ว รออ่านบทความต่อไปของแม่มณีนะเจ้าคะ จะเอามากางเทียบให้ดูทุกที่เลย


    ข้อ 2. เหมาจ่ายค่าย F อะไรดี เลิกขายแผน 550,000 ให้เด็ก ขายแต่แผน 1,100,000 กับ 3,300,000


    น้องเปรี้ยวขาดทุนแหล่ะ..ดูออก ก่อนหน้านั้นขายแค่แผนเล็กสุด 550,000 มาวันนี้อยากขายแผนล้านกว่า กับ สามล้านกว่า แต่ดันเลิกขายแผนเล็กสุดซะงั้น ทำให้เบี้ยประกันขั้นต่ำสำหรับจะซื้อแผนเหมาจ่ายเด็กค่ายนี้ ขยับหนีจากห้าหมื่นเป็นหกหมื่น สบายใจขึ้นกับวงเงินล้านกว่าต่อปี ไม่จำกัดวงเงินต่อครั้ง แม้กระทั่งค่าห้อง

    ในทรรศนะของแม่มณี เบี้ยเพิ่มหมื่นกว่า ขนหน้าแข้งเจ้าพระยานั้นหาสะเทือนไม่ ได้วงเงินสบายใจกว่าเดิมเยอะ จาก 550,000 กลายเป็น 1,100,000 เปรียบเสมือนน้องเปรี้ยวขอเบี้ยเพิ่มแบบตะมุตะมิ เทียบกับความเหมาจ่ายทุกรายการวงเงินปีละหนึ่งล้านกว่า ถ้าเข้าโรงพยาบาลหรูหราก็ยังคุ้มค่าและเป็นตัวเลือกเหมาจ่ายที่เบี้ยหนัก รักเด็ก เจ็บแต่จบ สำหรับลูกเจ้าพระยา พ.ศ.นี้โรงเรียน inter ถือประกันเหมาจ่ายทุกรายการ เข้าโรงพยาบาลหรูหราแค่ไหน ค่าห้องเท่าไหร่ก็ไม่กลัว


    ข้อ 3. HS บวก ตระกูลช่วยจ่ายส่วนเกินของฟิลหลอดไฟ กับ R คะเน

    ในช่วงปี 2019-2020 เป็นปีที่สองค่ายนี้ขับเคี่ยวคู่คี่กันมาก จากสัญญาเพิ่มเติมตระกูล HS บวก ที่มีรูปแบบผลประโยชน์ในลักษณะการช่วยจ่ายส่วนเกินจากประกันเล่มหลัก 80% บ้าง 90% บ้าง และก็ช่วยเติมค่าห้องให้อีกนิด ๆ หน่อย ๆ เมื่อนำมาประกบกับสัญญาเพิ่มเติมค่าห้องแยกค่าใช้จ่าย ทำให้เราได้แผนประกันสุขภาพราคาถูก ค่าห้องสูง และเวลาเคลมจริงมีส่วนเกินน้อยมากเกือบจะเทียบเท่าประกันเหมาจ่าย ตัวแทนขายกันแทบไม่ทัน ลูกค้าก็เคลมกันมันส์ สุดท้ายบริษัทประกันก็ไม่ไหว ยิ่งขายยิ่งขาดทุน เค้าก็ต้องปิดการขายไปตามระเบียบ


    สำหรับฟิลหลอดไฟนั้น ปิดสัญญา HS บวกไปเลย ถือเป็นอาการงอนขั้นสุด หยุดขายทุกอายุไปเลยเจ้าค่ะ แต่เหลือค่าห้องแบบแยกค่าใช้จ่ายธรรมดาที่ยังเปิดขายให้กับเด็กอยู่เหมือนเดิม รออ่านเพิ่มเติมใน content ถัดไปเจ้าค่ะ


    ส่วน R คะเนนั้น สายป่านยังไหว ก็งอนกันไปเฉพาะช่วงอายุเจ้าปัญหา 1-5 ขวบ อายุ 6 ขวบขึ้นไปยังขาย HS บวกให้ กลายเป็นหนึ่งในใจแม่มณีสำหรับเด็กอายุ 6 ขวบขึ้น แต่เด็กเล็กกว่านั้น R ไม่สู้แล้วเจ้าค่ะ


    การปิดสัญญา HS บวกนี้ แม่มณีถือว่าเป็นการสร้างมาตรฐานราคาใหม่ของวงการประกันเด็กเล็ก เบี้ยหมื่นกว่าค่าห้องเพียงพอเข้า รพ.​เอกชนนั้นเห็นจะหาไม่ได้อีกต่อไป ต้องขยับเป็นหลักสองหมื่นขึ้นไปสำหรับโรงพยาบาลเอกชนระดับกลาง และถ้าอยากได้อย่างดีต้องขึ้นไปเป็นสาม สี่ ห้าหมื่นตามลำดับ พ่อแม่ต้องปรับ รับมือกันให้ทัน กันเงินไว้ให้พอด้วยเจ้าค่ะ

    และนี่คือการเปลี่ยนแปลงหลัก ๆ ในกลุ่มประกันเด็กที่แม่มณีสรุปมาให้ในช่วงครึ่งปีหลังนี้ อาจมียิบย่อยกว่านี้ที่แม่มณีไม่ผ่านตา และก็มิอาจรู้ได้ว่าฝุ่นตลบปรับกันเสร็จแล้วรึเปล่า พ่อแม่อย่างเราก็ต้องเข้าใจสัจธรรมว่าประกันมันคือธุรกิจที่ยังคงแสวงหากำไร ขาดทุนติดต่อกันนานเกินไปก็ต้องปรับขยับขยาย อย่าฟูมฟาย ไม่ต้องดราม่า หาทางรับมือที่ดีที่สุดสำหรับเราดีกว่าเจ้าค่ะ ใน content ต่อไปแม่มณีจะมาเปรียบเทียบประกันเด็กใหม่อีกครั้งหลังการเปลี่ยนแปลงทั้งหมด รอบนี้มีโตเกียว มาลุยมาเสริมเติมเรือนบ่าวไพร่ให้เต็มขึ้นมา หวังว่าจะติดตามกันต่อไป เป็นกำลังใจให้พ่อๆ แม่ ๆ ผ่านวิกฤติโกวิทกันให้ได้ทุกคน อดทนกันหน่อยนะเจ้าคะ

    รักยิ่ง และ รักยาวนาน - แม่มณี